การตรวจสอบระบบเชื้อเพลิง เป็นการตรวจสอบระบบการจ่ายเชื้อเพลิงซึ่งได้แก่ ปั๊มเชื้อเพลิงและอุปกรณ์ต่างๆในคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งจะต้องพอจารณาและตรวจสอบตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.การตรวจปั๊มเชื้อเพลิง การตรวจการทำงานของปั๊มเชื้อเพลิงแบบกลไกสามารถปฏิบัติดังนี้
-ตรวจการทำงานของลิ้นน้ำมันเข้าด้วยการอุดท่อเข้า-ออกและท่อไหลกลับ และพิจารณาดูการเคลื่อนตัวของกระเดื่องกดแผ่นไดอะแฟรมซึ่งจะเคลื่อนตัวเป็นอิสระ
-ตรวจสอบลิ้นทางด้านน้ำมันออก โดยใช้นิ้วมืออุดช่องทางเข้าและตรวจสอบการล็อคตัวของกระเดื่องนั้นด้วยแรงเช่นเดียวกับการตรวจสอบลิ้นทางเข้า
-ตรวจสอบไดอะแฟรมโดยใช้นิ้วมืออุดท่อทางเข้าและท่อทางออกและตรวจสอบการล็อคตัวของกระเดือง
หมายเหตุ ถ้าทำการตรวจสอบทั้ง 3 หัวข้อแล้วปั๊มยังคงทำงานผิดปกติอยู่ นั่นแสดงว่าการผนึกของปั๊มผิดปกติ
*ให้อุดรูระบายปั๊มเพื่อตรวจสอบการรั่วของน้ำมันและการล็อคของกระเดิ่องปั๊ม
2.การถอดแยกคาร์บูเรเตอร์ การถอดแยกคาร์บูเรเตอร์ควรถอดแยกชิ้นส่วนออกเป็น 2 ส่วนอย่างระมัดระวัง เช่น ควรแยกฝาครอบคาร์บูเรเตอร์ และตัวเรือนของคาร์บูเรเตอร์ออกอย่างระมัดระวังอย่าให้สับสน และควรจัดเรียงชิ้นส่วนให้เป็ไปตามลำดับ
3.การตรวจสอบคาร์บูเรเตอร์ ก่อนทำการตรวจสอบคาร์บูเรเตอร์ ชิ้นส่วนทุกชิ้นควรจะได้รับการทำความสะอาดเสียก่อน การตรวจสอบสามารถปฏิบัติได้ดังนี้
-ตรวจสอบการสึกหรอของสลักลูกลอย การแตกบิ่นของรูสลักลูกลอย การบิดเบี้ยวของสปริง เข็มลูกลอย ลูกสูบ และการแตกของตัวกรองเชื้อเพลิง
-ตรวจสอบการเคลื่อนตัวของลูกสูบกำลัง
-ตรวจสอบการชำรุดและการเปิด-ปิดของลิ้นกำลัง
-ตรวจสอบการทำงานของนมหนูไฟฟ้าด้วยการต่อขดลวดกับแบตเตอรี่
-ตรวจสอบความต้านทานตัวเรือนขดลวดโช้กอัตโนมัติ (ความต้านทาน 20 ถึง 22 โอห์ม ที่อุณหภูมิ 20องศาเซลเซียส )
-ตรวจรอยชำรุดของสกรูปรับส่วนผสมเดินเบา
-ตรวจสอบการอุดตันของนมหนูเดินเบาและนมหนูหลักแต่ละตัว
4.การประกอบคาร์บูเรเตอร์ การประกอบให้ประกอบอย่างระมัดระวังตามขั้นตอนดังนี้
-ประกอบสกรูปรับแต่งส่วนผสมเดินเบาเข้าที่เรือนคาร์บูเรเตอร์
-ประกอบชุดไดอะแฟรมตรวจวัดตำแหน่งลิ้นเร่ง
-ประกอบลูกเบี้ยวเดินเบารอบสูง แหวนรองลูกเบี้ยว และโบลด์
-ประกอบคอคอดท่อที่ 1 และท่อที่ 2บนปะเก็นที่เปลี่ยนใหม่
-ประกอบปั๊มเร่งช่วย ลูกปืนไดอะแฟรมสปริง และเรือนปั๊มเร่งช่วย
-ประกอบนมหนูหลักท่อที่ 1 และ 2 และนมหนูเดินเบา
-ประกอบตัวหน่วงลิ้นเร่งและนมหนูไฟฟ้าเข้ากับตัวเรือนคาร์บูเรเตอร์
-ประกอบลูกปืนกันกลับของปั๊มเร่ง
-ประกอบตัวเรือนขดลวดสปริงไบมีทัลของโช้กอัตโนมัติ
-จัดขีดบนเรือนโช้กให้ตรงกัน และตรวจการทำงานของลิ้นโช้ก
-ประกอบบ่าลิ้นและปะเก็นใหม่เข้าช่องทางเชื้อเพลิงเข้า
-ประกอบเข็มลูกลอย สปริงลูกลอย ลูกลอย และสลัก
-ตรวจวัดระดับลูกลอยโดยใช้เวอร์เนียร์หรือเครื่องมือวัดเฉพาะวัดระหว่างลูกลอยกับฝาครอบคาร์บูเรเตอร์ (ระดับลูกลอย 7.2 มิลลิเมตร หรือ 0.238 นิ้ว)
-ถ้าระดับลูกลอยไม่ได้ตามที่กำหนดไว้ ให้ทำการปรับที่ส่วนปลายของลูกลอย
-ประกอบฝาครอบและตัวเรือนคาร์บูเรเตอร์เข้าด้วยกันกับสกรู
-ประกอบก้านต่อโช้กโอเพนเนอร์
-ประกอบขาปั๊มเร่งและก้านต่อโช้กเข้ากับฝาครอบคาร์บูเรเตอร์
5.การปรับแต่งคาร์บูเรเตอร์ หลังจากทำการประกอบคาร์บูเรเตอร์แล้ว ควรทำการปรับแต่งคาร์บูเรเตอร์ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
-ตรวจสอบการเปิดเต็มที่ของลิ้นเร่งท่อที่1 (ค่ามุมมาตรฐาน 90 องศาตามแนวนอน )
-ถ้ามุมการเปิดไม่ได้ตามค่าที่กำหนด ให้ปรับตั้งขากั้นลิ้นเร่งท่อที่ 1
-ตรวจวัดมุมการเปิดเต็มที่ของลิ้นเร่งท่อที่ 2 ( ค่ามุมมาตรฐาน 80 องศาตามแนวนอน)
-ถ้ามุมเปิดไม่ได้ตามค่าที่กำหนด ให้ปรับตั้งขากั้นลิ้นเร่งท่อที่ 2
-ปรับตั้งระยะห่างระหว่างลิ้นเร่งท่อที่ 2 กับตัวเรือนคาร์บูเรเตอร์ (ระยะคิกอัป ระยะห่างคิกอัปประมาณ 0.16 ถึง 0.27 มิลลิเมตร)
-ถ้าระยะห่างคิกอัปไม่ได้ตามค่าที่กำหนด ให้ใช้คีมปรับตั้งดัดขาลิ้นเร่งท่อที่ 2
-ปรับตั้งขีดเครื่องหมายบนเรือนขดลวดให้ตรงกับขีดกลางของตัวเรือน
-ถ้าต้องการปรับส่วนผสมให้เหมาะสมกับการสตาร์ท ให้หมุนเรือนขดลวดไปตามทิศทางดังนี้
ถ้าต้องการส่วนผสมหนา ให้หมุนเรือนขดลวดไปตามทิศทางเข็มนาฬิกา
ถ้าต้องการส่วนผสมบาง ให้หมุนเรือนขดลวดไปตามทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
-ปรับขาลิ้นเร่งในตำแหน่งเดินเบารอบสูง
-ถ้ารอบเดินเบารอบสูงไม่ได้ตามที่กำหนด ให้ใช้คีมดัดขาเดินเบารอบสูง
-ดัดก้านต่อ A เพื่อปรับตั้งระยะการทำงานของปั๊มเร่ง (ค่าระยะมาตรฐาน 4.0 มิลลิเมตร)
WWW.PCNFORKLIFT.COM
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น